กลยุทธ์ของ แลรี่ เพจ ผู้ก่อตั้ง Google

กลยุทธ์ของ แลรี่ เพจ ผู้ก่อตั้ง Google

การบริหารของแลรี่ เพจ นั้นเกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานการเป็นวิศวกร หรือการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ แต่การบริการของเขาเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับธุรกิจ Start Up ที่เหมาะจะนำไปศึกษา เพื่อเป็นเคล็ดลับการทำงาน เรามาดูกันว่าบทเรียนการเป็นผู้นำของแลรี่ เพจนั้นมีอะไรบ้าง

สร้างทีมงานคุณงานและไม่ทำงานที่ซับซ้อน


หลายปีที่ผ่านมาแลรี่ควบคุมการจ้างงานของ Google ด้วยตนเอง โดยเฉพาะตอนที่คัดเลือกพนักงาน เขามักเลือกคนที่จบจาก University of Michigan หรือ Stanford University เพราะเขาและเพื่อนผู้ร่วมก่อต้อง Google ได้รู้จักกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งในตอนนี้พนักงานระดับหัวกระทิที่เขาได้ทำการคัดเลือกก็ได้ก้าวหน้าในหน้าที่การทำงาน บางคนก็ออกไปเปิดบริษัทของตนเอง บางคนก็ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแผนกของ Google พวกเขายังคงปักหลักทำงานกับแลรี่เพราะเขาชื่อมั่นใจตัวของแลรี่

มีความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง


หบายปีกว่าที่ Ggogle Maps และ Street View จะเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลกและอำนวยความสะดวกให้กับคนในปัจจุบัน ช่วงแรกที่เขาทดลองระบบนั้นเขาต้องขับรถและถ่ายวีดีโอเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ตัดสินใจแล้วว่าจะทำโครงการนี้ต่อไป เขาใช้เวลาและความพยายามในการเกลี้ยกล่อมคนอื่น ๆ ให้เชื่อแบบที่เขาเชื่อ นอกจากนี้แลรี่ยังสนใจเรื่องรถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทนตั้งแต่ตอนที่เขาเข้าร่วมการแข่งขันรถพลังงานแสดงอาทิตย์กับทางมหาวิทยาลัย ปัจจุบัน Google ได้เพิ่มข้อมูลอำนวยความสะดวกให้กับรถพลังงานแสงอาทิตย์ได้รู้ตำแหน่งชาร์จพลังงานได้สะดวกยิ่งขึ้น

ไม่ละเลยไอเดียและค่อยๆพัฒนาสิ่งนั้นให้กลายเป็นจริง


ไอเดียการสร้างระบบค้นหาข้อมูลของ Google นั้นเกิดมาจากที่แลรี่ต้องการให้ข้อมูลเว็บไซต์และลิงก์เว็บเหล่านั้นมาไว้ในแหล่งเดียวกันทั้งหมด เขาบอกว่าถ้าไม่มีคนอื่นกล้าพอที่จะเร่ิม เราก็แทบจะไม่ต้องแข่งกับใครเลย

แลรี่สนับสนุนให้ทีมงานเชื่อในไอเดียที่เกินจริงของตัวเอง พยายามต่อสู่กับไอเดียเหล่านั้นอาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงโลกของเราได้ ไอเดียจะดึงดูคนเก่ง ๆ ที่เชื่อในสิ่งเดียวกันและนั้นจะทำให้ประสบความสำเร็จได้ แม้บางครั้งท้ายที่สุดสิ่งที่เราได้อาจไม่ใช่เป้าหมายของเราเลยก็ตาม

ทำงานให้ถูกต้องและรวดเร็ว

แลรี่กำลังเปลี่ยนให้คนใน Google ทำงานได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เขาให้พนักงานรายงานสถานการณ์การทำงานและเสนอโครงานต่อเขาด้วยการเขียนไม่เกิน 60 คำ ทำให้พนักงานต้องเขียนบทความที่มีใจความเพียงสองย่อหน้าที่กระชับ น่าสนใจและเข้าใจง่าย ผู้บริหารระดับสูงจะต้องมีเวลาคุยกับพนักงานอย่างน้อยหนึ่งวันต่อสัปดาห์เพื่อการประสานงานที่ราบรื่น เมื่อพนักงานมีธรรมชาติของการทำงานที่รวดเร็วขึ้น การใช้เวลาตัดสินใจก็จะน้อยลง จะทำให้บริษัทก้าวไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น

ที่มา :

fortune.com
https://blog.jobthai.com

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม